ชมภาพยนตร์ไม่ได้ โหลดช้า คลิกProgram download

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Up ปู่ซ่าบ้าพลัง

Up ปู่ซ่าบ้าพลัง

ภาพยนตร์การ์ตูนแอนนิเมชันที่น่าดูที่สุดแห่งปีนี้ คงหนีไม่พ้น Up จากค่าย Disney Pixar ตามเคย ที่ยังคงรักษามาตรฐานความเหนือชั้นไว้อย่างดี ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ ถ้าดูกันจริงๆ อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ขาดไป หรือไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับดิสนี่ย์คลาสสิก แต่เรื่องนี้ก็ยังรับประกันความสวยงาม ความสนุกสนานและความฮาแบบไม่ไร้สาระได้อย่างแน่นอน

โครงเรื่องของการ์ตูนจาก Pixar ก็ยังคงเน้น concept ที่ความเรียบง่าย และไปโชว์ความเทพที่ screenplay เหมือนเดิม จะเห็นว่า Plot เรื่องนี้แสนจะธรรมดา และมีอะไรที่น้อยกว่า เรื่องก่อนๆอย่าง Ratatouille หรือ Toy Story อีก ซึ่งจริงๆความง่ายของ Plot ที่ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นของ Pixar นี้อาจส่งผลเสียต่อหนังได้ง่ายมาก ถ้าองค์ประกอบด้านอื่นไม่เจ๋งพอ การตัดสินใจอย่างนี้ทำให้เสี่ยงเอาความสนุกของหนังไปผูกกับสคริป และอาจถูกมองว่า creator เริ่มหมดไอเดียใหม่ๆที่โดดเด่น ซึ่งก็อาจจะจริง เหมือนที่ในอดีตเคยถูกวอล ดิสนี่ย์กล่าวว่าไว้ก็ได้อารมณ์ของ Up นี้เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนตลก อย่างแท้จริง ถึงแม้จะมีหลายเหตุการณ์ ที่ถูกเขียนมาเพื่อใส่มุขฮา(ซึ่งถือว่าไม่ดี) แต่ส่วนใหญ่ก็สอดรับและเข้ากับเนื้อเรื่อง อย่างมุขที่ขว้างจีพีเอสออกนอกหน้าต่าง เป็นตลกธรรมชาติและตรงกับเนื้อเรื่องเพราะรัสเซลล์เพิ่งใช้มันนำทางมาที่อเมริกาใต้นี้ มุขหมาพูดได้ที่ดั๊กเป็นตัวเล่น ให้คนดูรู้ครั้งแรก เป็นการเปิดตัวละครที่มีสเน่ห์และตลกมาก หรือมุขที่หมาตกใจเมื่อได้กลิ่นได้ยิน กระรอก ก็ทั้งฮาและมีประโยชน์ต่อรัสเซลล์ตอนท้ายเรื่อง

ที่สำคัญ screenplay เรื่องนี้โดดเด่นในเรื่องที่ เล่นกับความง่ายได้ดี อย่างเช่น การเคลื่อนย้ายบ้าน ที่แสนจะง่าย เมื่ออยากลดระดับก็ตัดลูกโป่งออก สามารถลากจูงบ้านไปไหนต่อไหนด้วยสายยางรดน้ำต้นไม้ หรืออยากจะตัดหรือเร่งเวลาฉากไหนก็เร่ง อย่างเช่น การมาถึงอเมริกาใต้อย่างรวดเร็วเหมือนแค่ข้ามคืน หรือพอเควินถูกจับไปปุ๊บ และคุณปู่ตัดสินใจแน่วแน่จะพาบ้านไปเหนือน้ำตกให้ได้ พอคัทมาอีกฉากก็ถึงน้ำตกละ ความไม่ smooth นี้ถ้าเป็นหนังแนวอื่นจะเป็นผลเสียได้ แต่ว่ากับการ์ตูน comedy นี้ การเร่งในบางช่วงบางตอนก็ส่งผลให้อารมณ์ของผู้ชมต่อเนื่องและไม่น่าเบื่อเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ เขียนได้อย่างน่าติดตามตลอด แบ่งเวลาให้กับอารมณ์ต่างๆอย่างลงตัว เข้ากับจังหวะของการ์ตูน และมีรายละเอียดปลีกย่อยที่นำมาเล่น และช่วยเสริมให้อารมณ์ของเรื่องนี้ดูดีขึ้นมาก เริ่มจากการปูชีวิตของคาร์ล ตั้งแต่เด็กร่วมกับเอลี่ ซึ่งเป็นช่วงเปิดหนังที่เล่าเรื่องอย่างทรงประสิทธิภาพ มันให้ภาพของความสุขจากความรัก เล่าเรื่องของตัวละครเอลี่อย่างรวบรัดและลงตัว ปูบุคลิกนิสัยของคุณปู่ รวมทั้งอธิบายว่าทำไมคาร์ลถึงรักบ้านหลังนี้ และเป็นเหมือนคนที่จมกับอดีตไม่ยอมเปิดรับเรื่องใหม่ๆ ต่อมาพอเริ่มผจญภัย หนังก็เดินเรื่องอย่างรวดเร็ว ไม่มีช่วงไหนที่เหมือนเว้นนานเกินจนน่าเบื่อ และยังสามารถสอดแทรก ความตื่นเต้นและลุ้นในฉากแอ็คชันและ ความเศร้า ซึ้งใจ ในอารมณ์ดราม่าอย่างลงตัว ที่สำคัญเช่น อารมณ์แรงจูงใจของคาร์ล หนังเริ่มจากการให้น้ำหนักต่อความคิดของทั้งคาร์ลและรัสเซลล์พอๆกัน ในความเป็นเด็กพูดมาก จอมวุ่นวายของรัสเซลล์นี้ เขารักและเป็นห่วงผู้คนรอบข้างเสมอ ส่วนคาร์ลนั้นติดอยู่กับความใฝ่ฝันของเขาและเอลี่ในอดีต จนอาจลืมผู้คนรอบข้าง จนมาถึงฉากที่บ้านโดนเผา และคาร์ลระเบิดอารมณ์ออกมา ทำให้ผู้ชมเริ่มดาวน์และไม่ค่อยเอาใจช่วยพระเอกของเราเท่าไร สิ่งนี้ทำให้พอหนังเฉลยปมในช่วงที่นั่งดูอัลบัมภาพคาร์ลกับเอลี่ มีพลังและทำให้หนังมีความหวังมาก รายละเอียดปลีกย่อยอย่าง การจัดวางเก้าอี้คู่ที่คาร์ลชอบนั่ง ซึ่งเพิ่งมาเห็นชัดๆว่าที่ว่างข้างขวานั่นเว้นไว้สำหรับใคร หรือหน้ากระดาษที่เขียนหวัดๆว่า “Stuff I’m going to do.” เหล่านี้ช่วยส่งให้ผู้ชมอินไปกับอารมณ์หนังมากขึ้น ฉากเฉลยนี้เป็นการดึงอารมณ์ผู้ชมจากต่ำมากไปสูงลิ่ว เพราะตัวเอกเข้าใจมุมมองของชีวิตมากขึ้น

เนื่องจากสิ่งที่เอลี่ต้องการจริงๆแล้ว ไม่ใช่การนำบ้านมาที่น้ำตกสรวงสวรรค์หรือการมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่มันเป็นการใช้ชีวิตร่วมกับคาร์ลอย่างมีความสุขต่างหาก การตัดสินใจผิดและมาเข้าใจทีหลังนี้ทำให้คาร์ลพร้อมที่จะช่วยรัสเซลล์และเควินอย่างเต็มที่ เป็นการส่งสาส์นถึงผู้ชมอย่างแนบเนียน ว่าระวังอย่าให้ความใฝ่ฝันของเรามาบดบังเราจนมองไม่เห็นสิ่งมีค่ารอบตัว หรือทำให้เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ถูก ถือว่าเป็นการ์ตูนที่สอดแทรกประเด็นดราม่าได้อย่างยอดเยี่ยม


รหัส pom





ตอนที่ 1 ตอนที่ 2ตอนที่ 3ตอนที่ 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น